4 เคล็ด(ไม่)ลับการทำงานของ HR ยุคใหม่

ฝ่ายบุคคล (Human Resource) หรือที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า HR  ซึ่ง HR เป็นตำแหน่งที่สามารถดำเนินงานได้
โดยบุคคลทุกเพศและทุกวัย ซึ่งในปัจจุบันองค์กรต่างๆก็จำเป็นที่จะต้องมีตำแหน่งนี้ในองค์กร ในอดีตแล้วการทำงาน
ของ HR นั้นมักจะเป็นการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่นหรือการที่อาศัยประสบการณ์จากระยะเวลาการทำงาน 

แต่ในปัจจุบันความรู้ HR สามารถหาได้จากหลายแหล่งมากมาย เนื่องจากเราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างล้ำสมัย
HR ที่ต้องการพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จจึงสามารถนำความรู้ HR เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้และสามารถใช้ได้กับ
HR ทุกเพศทุกวัย


1 รู้ลึก รู้จริงในงานที่ได้รับมอบหมาย


การรู้ลึกและรู้จริงในงานที่ได้รับมอบหมายมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากมีผลต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของงานที่ทำได้
การทำงานของ HR ที่สามารถทำให้งานนั้นสำเสร็จได้ ไม่เพียงแต่ใช้ความรู้ HR แต่ยังคงต้องอาศัยความรู้ในสิ่งที่กำลังจะทำ
มีความเข้าใจเข้าไปถึง แก่นแท้ของสิ่งนั้น การมีความเข้าใจลึกซึ่งมาจากการรู้ลึกและรู้จริงในงานที่ทำช่วยให้สามารถสร้างผลงาน
ที่มีคุณภาพเป็นไปตามเป้าหมายได้มากขึ้น และช่วยให้ HR สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่าง

การที่ HR ได้รับมอบหมายในการคัดเลือกพนักงานเข้ามาในองค์กร ซึ่ง HR ก็จำเป็นที่จำต้องใช้ความรู้ HR ที่สะสมมา ประกอบกับการศึกษาค้นคว้าและเรียนรู้เพิ่มเติมด้วย เพื่อให้การคัดเลือกพนักงานออกมามีประสิทธิภาพที่สุด โดยที่ต้องเข้าใจถึงแก่นแท้ของวัตถุประสงค์ของการคัดเลือก ขั้นตอนการดำเนินการ หรือแม้แต่กระทั่งต้องการเตรียมรับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดในอนาคต


2 มีความชัดเจนในการเลือกสายงาน 


สายงานของ HR มีมากมายหลากหลายสาย เช่น  ด้านการคัดเลือกพนักงาน ด้านการดูแลเรื่องค่าจ้าง หรือแม้กระทั่งด้าน
การดูแลข้อมูล การที่ HR มีความชัดเจนในการเลือกสายงานจะช่วยให้ HR มีแรงบันดาลใจในการทำงาน มุ่งมั่นในการพัฒนา
ตนเองในสายงานนั้นๆ เนื่องจากความรู้ HR มีอยู่มากมายหลายแขนงให้ค้นคว้า และความชัดเจนในการเลือกสายงาน จะทำให้
เกิดความชำนาญเชี่ยวชาญในงานด้านนั้น  เพื่อที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จที่ง่ายและว่องไวขึ้น เนื่องจากมีการโฟกัสอย่างถูกจุด 

ตัวอย่าง

การที่ HR เลือกที่จะมุ่งมั่นและชัดเจนไปในด้านของการคัดเลือกพนักงาน จะส่งผลให้ HR ท่านนั้นมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนคือการศึกษาและเก็บเกี่ยวความรู้ในด้านการคัดพนักงาน การศึกษากฎหมายต่างๆ หรือมีการวางแผนแนวทางในการต่อยอดในสายงานที่เลือก ด้วยเหตุผลนี้ HR จึงสามารถดำเนินการไปได้อย่างตรงตามแบบแผน เป็นระเบียบ และจะทำพาสู่ความสำเร็จในที่สุด


3 มีน้ำใจ และวาจาดี เป็นมิตรกับทุกคน


นอกจากจะต้องใช้ความรู้ในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว เรื่องการปฏิบัติตนก็ยังถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรมาคู่กันด้วย เนื่องจาก HR
ทุกท่านจำเป็นที่จะต้องควบคุม ดูแล และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พนักงาน ถ้าหาก HR ท่านนั้นปฏิบัติหน้าที่ได้ดี มีความรู้อย่างมาก
แต่การเป็นผู้ที่ไม่มีน้ำใจ การสื่อสารไม่ดี ไม่มีความเป็นมิตร ผลที่ตามมาอาจจะส่งผลให้สภาพแวดล้อมการทำงานไร้ประสิทธิภาพ
พนักงานไม่มีความนับถือ และส่งผลเสียร้ายแรงต่อไปในอนาคต


ตัวอย่าง

HR ก. เป็นคนใจดี มีน้ำใจ พูดจาสุภาพกับพนักงานในองค์กรจึงเป็นที่รักและที่นับถือของพนักงานทุกคน พนักงานทุกคนต่างพากันนำแบบอย่างที่ดีมาปฏิบัติตาม เปรียบเทียบกับ HR ข.ที่มีความรู้ความสามรถในการทำงานเป็นอย่างมาก แต่เเบ่งชนชั้นตนเองกับพนักงานท่านอื่น ไม่สุงสิง พูดคุยกับใคร พนักงานจึงพากันหลบหน้า ไม่พูดด้วย จึงทำให้เห็นได้ว่าเรื่องของความมีน้ำใจ วาจาดีไม่ควรมองข้าม และความรู้ควรมาคู่กับการมีน้ำใจเสมอ 


4 พัฒนาตนเอง รับความรู้ใหม่


อย่างที่ได้กล่าวไปขั้นต้นว่าความรู้ HR สามารถหาได้มากมายหลายแหล่งในปัจจุบัน เช่น จากเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน
ดังนั้นการพัฒนาตนเองของ HR จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป การพัฒนาตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะนำพาไปสู่ความ
สำเร็จได้อย่างว่องไว และการหมั่นหาความรู้ใหม่เสมอก็สำคัญเช่นกัน เพื่อความทันโลกทันสมัย ประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน
และสามารถทำให้ประสิทธิภาพของงานที่ออกมามีผลลัพธ์ที่สูงและดี เป็นไปตามเกณฑ์

ตัวอย่าง

การลงคอร์สเรียนเกี่ยวกับทักษะและความรู้ใหม่ ๆ ที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน การที่ HR เข้าร่วมการฝึกอบรม หรือสร้างหลักสูตรการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนพนักงาน เพื่อใช้ในการพัฒนาตนเอง การฝึกใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์หรือแอพพลิเคชันการเรียนรู้ หรือแม้แต่กระทั่งการเรียนรู้ สอบถามแนวคิด กระบวนการทำงานจาก HR ท่านอื่นเพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานของตนเอง


สรุป


การพัฒนาตนเองของ HR  เป็นการสนับสนุนความสำเร็จในอนาคตที่สำคัญ โดยเน้นที่ความรู้และความชำนาญในงาน
ที่ได้รับมอบหมาย การเลือกสายงานที่ชัดเจน ความมีน้ำใจ  การสื่อสารที่ดี และการพัฒนาตนเองเพื่อรับความรู้ใหม่ๆ
เป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยพาองค์กรสู่ความสำเร็จในอนาคต เคล็ด(ไม่)ลับเหล่านี้สามารถปรับใช้ได้กับ